วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

เหตุไฉนใยจึงเรียก 18 มงกุฎ

สวัสดีครับ...ท่านผู้อ่านที่เคารพ หลายๆท่านคงสงสัยว่าสำนวน สิบแปดมงกุฎ มีที่มาเป็นอย่างไร  แล้วทำไม? ถึงต้องเรียกว่า สิบแปดมงกุฎ เมื่อพูดถึงที่มาของสำนวนนี้ผมขอกล่าวเข้าไปถึง คำพูดหนึ่งในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ เพราะได้มีการกล่าวถึงเหล่าวานร ซึ่งเป็นทหารของ พระรามว่า สิบแปดมงกุฎ คือ พญาวานรผู้ที่เคยออกศึกกับพระราม ในครั้งที่ทำศึกกับกรุงลงกา และเหล่าพี่ น้อง วงศ์ยักษ์ ของทศกัณฐ์ แต่นี่เป็นเพียงเรื่องราวคราวๆเท่านั้น และเหล่าวานรทั้ง สิบแปดตนมีจะมีใครบ้าง ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับวานรทั้งสิบแปดตนนี้กันครับ



1.      ไชยามพวาน
คนธงนำทัพได้            อวตาร
นามว่าไชยามพวาน       ภาพนี้
สีเทาพระอิสาน            เทวบุตร
จุติจากสวรรค์ลี้            แบ่งเพี้ยนภาคผัน

(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 76)
2.      โกมุท
สมญาโกมุทผู้             พิสดาร
สีปทุมโรยปาน             เปรียบได้
คือองค์พระหิมพาน       ปันภาค
หวังรบราพณ์ฉลองใต้     บาทเบื้องอวตาร
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 79)
3.      กุมิตัน
รังภาพรูปบอกแจ้ง       เพศพรรณ
ขุนกบี่กุมิตัน                ชื่ออ้าง
ฉวีสีสุวรรณสรร            ส่อเหตุ เดิมพ่อ
พระเกตุแบ่งภาคร้าง      โลกโพ้นเป็นสวา
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 81)
4.      เกยูร
เกยูรนามเยี่ยงนี้                    ในสกนธ์ นั้นฤา
สีม่วงแก่มัวมน             เผือดคล้ำ
วีรุฬหกเวหน               หากแบ่ง ภาคแฮ
ชูช่วย ราเมศห้ำ           หั่นเสี้ยนศึกอสูร
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 83)
5.      มายูร
วิรูปักษ์มรุเจ้า            จุติลง
เป็นกบี่มายูรยง            อาจอ้าง
สีม่วงอ่อนพักตร์มง        กุฎสิบ- แปดนา
รองบาทนารายณ์ล้าง     เศิกสิ้นทมิฬศูนย์
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 85)
6.      มาลุนทเกสร
ทวยหายญพระกฤษณผู้ ชาญสมร
คือพฤหัสบดีจร            จากฟ้า
มาลุนทเกสร               นามกบี่
สีเมฆเรืองฤทธิ์กล้า        กลั่นแกล้วกลางณรงค์
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 87)
7.      วิมล
พานเรศรูปนี้             นามกร
ว่าวิมล วานร               เนื่องอ้าง
สีดำแบ่งภาคจร            จากพระ เสาร์แฮ
เนาบุเรศเขตต์กว้าง       ชื่อพร้องขีดขิน
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 89)
8.      ไวยบุตร
ไวยบุตรกบี่นี้             เพลงขาน นามเฮย
พิรุณเทพอวยพรรษธาร   ทั่วหล้า
จุติช่วยพิษณุราญ          รอนราพณ์
สีเฉกเมฆมัวฟ้า             มืดคลุ้มชะอุ่มฝน
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 91)
9.      สัตพลี
จันทร์จุติเป็นเพศพื้น    พงศ์สวา
สีเศวตตำแหน่งอา-        ลักษณ์ไห้
นามสัตพลีตรา             ชอบผิด ทหารแฮ
สิบแปดมงกุฎไว้            ชื่อชี้ชูเฉลิม
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 93)
10.      สุรเสน
วานรเตียวเพชรนี้        นามสุ- รเสนแฮ
คือพระพุธสุดดุ             เดชล้ำ
อาจปราบอสูรลุ            ฦๅฤทธิ์ เร็วเฮย
สีแดงสุดเก่งก้ำ             เกือบแม้นหนุมาน
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 95)
11.  นิลขัน
พานรตนนี้นี่              นามนิล ขันพ่อ
กายเลื่อมสีหงส์            เดชแกล้ว
คือพระพิเนศผิน           ผันภาค มานา
เปรียบดุจขุนพลแก้ว      เกิดด้วยบุญราม
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 97)
12.  นิลปานัน
นิลปานันอยู่ด้าว          ชมพู นครเฮย
พวกสิบแปดมงกุฎชู       ชื่อไว้
คือองค์พระราหู            มาจุ- ตินา
สีเล่ห์สัมฤทธิ์ไล้            เลิศล้ำฤทธิรงค์
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 99)
13.  นิลปาสัน
พระศุกร์อุบัติขึ้น         เป็นสวา
เหลืองเสื่อมวรรณโลมา   คะมิ่นย้อม
มีนามแน่นิลปา             สันแหละ พ่อเฮย
แรงฤทธิ์เดชเก่งพร้อม     แพร่ทั้งชมพู
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 101)
14.  นิลราช
พานรนิลราชกร้าว       ฤทธิไกร
สีเช่นชลไหลใส             สดแพร้ว
คือพระสมุทรไคล                    คลาศแบ่ง ภาคฤา
เป็นทหารหริแกล้ว        เศิกกล้าราวี
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 103) 
15.  นิลเอก
นิลเอกตนนี้พระ          พินายลง อุบัตินา
เป็นพวกสิบแปดมง        กุฎแกล้ว
เนื่องขัตตติยวงศ์           นครเขตต์ ชมพูเฮย
สีดุจดามพระแผ้ว                    ผ่องแม้นสุริยัน
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 105)
16.  วิสันตราวี
ขุนพานเรศรูปนี้          นามนี้
คือวิสันตราวี               บอกสิ้น
อังคารเทพลี-               ลาศแบ่ง   มาฤา
กายก่ำเล่ห์สีสิ้น-           จี่ล้วนแลงาม
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 107)
17.  เกสรทมาลา
ไพศรพณืผันกายตั้ง      ตัวสวา หนึ่งแฮ
สีเลื่อมเหลืองเทียมทา     มาศแพร้ว
เกสรทมาลา                ฦาเดช
ทุกราฟณ์รอฤทธิ์           กลอกกล้ากลัวมือ
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 109)
18.  สุรกานต์
สีเหลืองวานเรศร้าย     เริงแรง
สุรกานต์นามแสดง        เดชห้าว
มหาชัยเอกองค์แปลก     เปลี่ยนภาค
มาช่วยวาสุเทพท้าว       ล่มล้างเหล่าอสูร
(ภาพและประวัติตัวละครวรรณคดีรามเกียรติ์, หน้า 111)
          คัมภีร์ วงศ์นิคม (2544)  กล่าวว่า       สิบแปดมงกุฎเป็นชื่อที่ใช้เรียกเหล่าเสนาวานรทั้ง 18 ตนที่อวตารมาจากเทวดา 18 องค์เพื่อมาช่วยกองทัพของพระรามในการทำศึกกับ ทศกัณฐ์ และกรุงลงกา
          จากคำประพันธ์เราจะเห็นได้ว่าตัวละครทั้ง 18 ตนนี้ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่สำคัญในการทำศึกและดำเนินเรื่องให้เป็นไปตามความจริง เพื่อช่วยเหลือพระราม ซึ่งเทวดาเหล่านั้นได้เล็งเห็นว่า ถ้าพระรามทำศึกครั้งนี้เพียงผู้เดียว ก็จะไม่สามารถรบชนะทศกัณฐ์ เป็นแน่ จึงพร้อมใจกันลงมาอวตาร เพื่อช่วยกองทัพของพระรามให้ผ่านศึกครั้งนี้ไปได้ด้วยดี และนี่ก็คือที่มาของสำนวน สิบแปดมงกุฎ จากด้านวรรณคดี
เห็นไหมครับท่านผู้อ่านสำนวนนี้มีที่มาจากวรรณคดีแต่ผู้อ่านคงสงสัยว่าจากสำนวนที่ความหมายมาในทางที่ดีแล้ว ทำไม? ถึงกลายเป็นสำนวนที่มีความหมายในทางลบ แล้วมีที่มาเพราะอะไร ผู้เขียนได้ทำการสืบค้นและทราบมาว่า มูลเหตุที่ทำให้สำนวน สิบแปดมงกุฎเกิดความหมายในเชิงลบ นั้นมีที่มาจากเหตุการณ์ในสมัยของรัชกาลที่ 6 ได้มีกลุ่มนักเลงการพนันใหญ่ที่ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น ตามร่างกายจะนิยมสักรูปของมงกุฎ จนทำให้สำนวน “สิบแปดมงกุฎ” ในทางร้ายที่หมายถึง พวกนักเลงการพนัน พวกที่มีเล่ห์เหลี่ยมกลโกง นักต้มตุ๋น ซึ่งพลอยทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณดีๆของวานรสิบแปดมงกุฎ(เทวดา)เลือนหายไป และเปลี่ยนแปลงความหมายไปในที่สุด
ดร.กรองแก้ว ฉายสภาวะธรรม (2552)  ได้กล่าวถึงสำนวนและให้ความหมายของสำนวน สิบแปดมงกุฎ ไว้ว่า สิบแปดมงกุฎ เป็นสำนวนที่หมายถึงพวกที่ขี้โกง แก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงผู้คน ด้วยความ ปลิ้นปล้อน มีเล่ห์เหลี่ยมจัด ไม่ทำมาหากินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง คอยแต่จะหาวิธีกลโกงเอาจากผู้อื่น
          ความหมายของ สิบแปดมงกุฎ ตามที่คนหรือบุคคลทั่วไปรู้จักกันดีคือ ผู้ที่เป็นมิจฉาชีพ หรือนักต้มตุ๋นหลอกลวง และบุคคลที่มีเล่ห์เลี่ยมจัด อาจจะเป็นเพราะเราไม่สามารถรู้ใจของคนที่อยู่รอบตัวเราได้และในปัจจุบันนั้นเราก็จะเห็น การนำสำนวนนี้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ในวงการสื่อมวลชน หรือแม้แต่ทางบ้านของผู้เขียนเอง ที่มักจะพูดกันว่า คนนู้นเป็นสิบแปดมงกุฎ คนนี้เป็นสิบแปดมงกุฎ จะทำให้ผู้เขียนสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าสำนวนที่ทางผู้ใหญ่ได้พูดกันนี้ หมายถึงอะไร? จึงได้ถามมารดาของผู้เขียนพบว่าหมายถึงผู้ที่ชอบหลอกเอาทรัพย์ของผู้อื่น และผู้เขียนก็มาทราบอีกในขณะที่กำลังศึกษาว่า สิบแปดมงกุฎนี้แท้จริงเป็นสำนวนที่เกิดจนจากวรรณคดีที่ผู้เขียนชอบอ่านคือ รามเกียรติ์ ในด้านของสื่อมวลชนนั้นเมื่อเราอ่าน หรือได้ฟังพร้อมภาพประกอบ ก็จะทำให้เรานั้นเห็นได้ชัดขึ้นว่า สำนวนนี้ได้เปลี่ยนแปลงความหมายไปแล้วจริงๆเพราะภาพที่ปรากฏ ออกมาตามสื่อ เช่นข่าวต่อไปนี้ที่ผู้เขียนได้พบ
ซึ่งในเนื้อความกล่าวว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับการหลอกลวงใช้มารยาและ  กลโกงในการ นำทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน เห็นไหมครับว่าเมื่อเราศึกษา และค้นคว้า อย่างดีแล้วเราก็จะพบกับพื้นฐานเดิมของ สำนวนนั้นๆและทำให้เราได้รู้จักที่มาของสำนวนมากขึ้นทั้งยังทำให้เราได้เข้าสู่การเรียนรู้เรื่องราวของทหารวานรในวรรณคดีอย่างไม่ทันรู้ตัว ในทางกลับกันนั้นเราก็จะได้พบกับมูลเหตุที่ทำให้สำนวนนั้นเปลี่ยนแปลงไปและเมื่อสำนวนเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าโครงของความหมายของรูปสำนวนเดิมไว้เลย และนี่แหละครับ สิบแปดมงกุฎ ในปัจจุบัน

1 ความคิดเห็น: